หลวงพ่อเผือก




 

 
ไปสำรวจวัดร้างในพื้นที่ตำบลบางจาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี โดยลงพื้นที่จำนวนสี่ครั้ง ทำให้ทราบว่า ชาวบางจานให้ความเคารพนับถือพระพุทธรูปสำคัญที่ได้มาจากวัดร้างในพื้นที่ตำบลบางจาน เรียกขานกันมานานว่า"หลวงพ่อเผือก" ประการสำคัญ"หลวงพ่อเผือก"ในตำบลบางจาน มีจำนวนสององค์และ+
"หลวงพ่อเผือก" องค์แรก สถิตที่ศาลาจตุรมุขวัดปากน้ำ(บางจานล่าง) เป็นพระพุทธรูปหินทรายแดง ปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก วัดได้110 เซนติเมตร ประวัติหลวงพ่อเผือก วัดปากน้ำ คำบอกเล่าจาก พระเสน่ห์ อายุ 67 ปีและ นาย บอส แก้วทิพย์ อายุ 67 ปี ชาวบ้านบางจาน(ล่าง) ทำให้ทราบว่า หลวงพ่อเผือก วัดปากน้ำ เดิมสถิตที่วัดนอกทุ่ง(ร้าง) อยู่ในสภาพตั้งอยู่บนแท่นฐานแต่เศียรขาด
วัดนอกทุ่ง(ร้าง) เป็นวัดร้างที่รกเรื่อมีต้นไม้ปกคลุมมากดูน่ากลัวไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่มย่าม ที่สำคัญบริเวณวัดนอกทุ่ง(ร้าง) ยังเป็นสถานที่ๆชาวบางจานจำนวนหนึ่งมาทำพิธีถวายกระจาดกันที่นี่ในปีที่มีเดือนแปดสองหน กระทั้งปัจจุบันกลายเป็นประเพณีถวายกระจาด ประเพณีสำคัญของชาวตำบลบางจาน
"นายบอส" บอกกับผมว่า สมัยยังเป็นเด็กผมพิเรนไม่กลัวอะไร เวลาเล่นลูกข่างผมจะมาลับเดื่อยลูกข่างให้คม ผมมุดป่าเข้ามาที่วัดนอกทุ่ง(ร้าง)โดยเอาเดื่อยลูกข่างถูไปถูมากับหัวเข่าพระพุทธรูปหินทรายแดง(ขณะนั้นยังไม่มีชื่อ)"
ภายหลัง ครูเจื่อง สุวรรณทิพย์ อดีตครูใหญ่ โรงเรียนบางจานวิทยา ร่วมกับอดีตเจ้าอาวาส วัดปากน้ำ อัญเชิญพระพุทธรูปหินทรายแดงจากวัดนอกทุ่ง มาสถิตที่ วัดปากน้ำ พร้อมซ่อมแซม นำเศียรเดิมที่ขาดมต่อใหม่ ให้ชื่อว่า"หลวงพ่อเผือก"
ช่วงเวลาอัญเชิญ หลวงพ่อเผือก มาแต่วัดนอกทุ่งมาที่วัดปากน้ำ ไม่มีใครจำปีพ.ศ.ได้ เพียงแต่ทราบจากการคำนวณอายุของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นมาเทียบเคียง โดยพระเสนห์ ปภากโร อายุ 67 ปี กล่าวเพิ่มเติมว่า"อาตมาเป็นเด็กวัดปากน้ำมีอายุประมาณ10ขวบเศษได้ไปร่วมอัญเชิญด้วย โดยชาวบ้านช่วยกันยกใส่รถม้าของ "ครูเจื่อง" แล้วช่วยกันเข็นหลวงพ่อเผือกเศียรขาดมาที่วัดปากน้ำ ต่อมารถม้าของครูเจื่องเก็บอยู่ใต้ถุนวัดจนกรทั่งพังสลายไป"
อนึ่งข้อมูลจากสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบุรี ระบุว่า วัดนอกทุางร้าง มีเนื้อที่จำนวน 5-0-16 ไร่
หลวงพ่อเผือก องค์ที่สอง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้น ว่ากันว่าเป็นพระประธานโบสถ์ วัดโลกา(ร้าง)
จากการสนทนกับชาวบ้านบางจานอาทิ นายไพศาล ตึกพราย นายสมคิด ฤทธิ์เปี่ยม โดยเฉพาะ นายประเสริฐ แต้มฤทธิ์ อายุ 80 ปี อดีตภารโรง โรงเรียนบางจานวิทยา ภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านบางจาน(บน) ทำให้ทราบว่า วัดโรงเรียนบางจานวิทยา ปัจจุบันนี้คือพื้นที่วัดโลกา(ร้าง) จุดที่พบหลวงพ่อเผือกคือด้านอาคารเรียนสุดท้ายข้างสระน้ำด้านทิศตะวันตก สภาพเดิมที่ นายประเสริฐ อายุ 80 ปีได้เห็นเป็นพื้นที่ดงต้นตาลรกด้วยป่า หลวงพ่อเผือกสถิตบนฐานชุกชีมีเศียรหักวางอยู่ที่หน้าตัก เข้าใจว่าหลวงพ่อเผืกเป็นพระประธานในโบสถ์ เมื่อถามว่า ทำไมจึงเรียกหลวงพ่อเผือก ได้รับคำตอบว่าเป็นปูนปั้นสีขาว
นายประเสริฐ บอกด้วยว่าคนแก่ๆสมันโน้นเล่ากันมาว่า มีลายแทงผุดมาจากทางเหนือ มีโฉลกว่า"วัดนอกโลกา พระเผือกลอยมานั้นอยํที่ใด" ภายหลังมีคนมาจากสุโขทัยมาถามหาหลวงพ่อเผือก พวกเขาขุดเจาะด้านหลังพลวงพ่อเผือกได้ปรอทไป
ส่วนนายไพศาล ตึกพราย อายุ 74 ปี บอกกับผมด้วยว่า สมัยเป็นเด็กเห็นเจดีย์สีแดงคล้ายวัดกำแพงแลงรูปทรงคล้ายพระปรางค์มีฐานเจดีย์กว้างราว8-10 เมตรในสภาพปรักหักพังอยู่ด้วยใกล้ๆหลวงพ่อเผือก
ต่อมาโรงเรียนบางจานวิทยา ร่วมกับชาวบ้านบางจาน ได้สร้างพระพุทธรูปยืน ไว้บริเวณทางเข้าโรงเรียนแล้วบรรจุเศียรหลวงพ่อเผือก วัดโลกาไว้ภายใน แล้วจารึกชื่อไว้สองชื่อได้แก่"หลวงพ่อเผือกและพระพุทธศรีวชิรมิ่งมงคล"
สำหรับพระพุทธรูปยืนดังกล่าวเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่ได้รับการกล่าวขานว่าปั้นได้งดงามมาก ฝีมือปั้นโดย ช่างเหิ่น เกสรา ครูช่างโบราณชาวบางจาน
อย่างไรก็ตามหลวงพ่อเผือกสององค์และบวก หมายถึง หลวงพ่อเผือกวัดปากน้ำหนึ่ง หลวงพ่อเผือก ปั้นโดยช่างเหิ่น เกสรา สองและบวก คือเศียรหลวงพ่อเผือกวัดโลกาที่บรรจุภายในพระยืน ไม่มีรูปให้เห็นมีแต่นามในความทรงจำเท่านนั้น "หลวงพ่อเผือก"คือพระพุทธรูปสำคัญประจำถิ่นฐานบ้านบางจาน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

กฐิน 2568